คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
Lockdown ได้ แต่ต้องมีมาตรการจากรัฐมารองรับชัดเจน ปัญหาตอนนี้ไม่ใช่รัฐทำนั่นก็ไม่ได้ ทำนี่ก็ไม่ได้ ปัญหาอยู่ที่รัฐประกาศมาตรการอะไรออกมาแล้วมันไม่มีมาตรการที่ต่อเนื่องกันออกมารองรับ จะ lockdown รัฐต้องดูแลการกินการอยู่ของประชาชน ต้องมีมาตรการช่วยเหลือฝั่งกิจการที่ชัดเจน ต้องมีมาตรการเรื่องรายได้ของแรงงานในระหว่างล็อกดาวน์ให้ชัดเจน ฯลฯ
ลองหันไปมองรัฐบาลตอนนี้สิว่ามีความพร้อมในการประกาศมาตรการต่างๆ แค่ไหน เอาแค่ตอนออกมาแถลงว่าจะใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งที่มันควรคุยกันให้จบก่อนว่าจะจำกัดอำนาจรัฐให้ใช้ตามมาตราที่เท่าไหร่บ้าง สิ่งที่รัฐบาลทำคือทิ้งให้มีช่องว่าง 2-3 วันเพื่อรอการประชุมตามรูทีนของรัฐบาล
หรือเมื่อวานอยู่ดีๆ ก็ออกมาพูดว่ายังมีคนใช้ขนส่งมวลชนเดินทางอยู่ ถ้ายังมียอดผู้ติดเชื้อสูงก็จะลดเที่ยวการเดินรถหรือหยุดเดินรถ ทั้งที่ในความเป็นจริงมันยังมีคนที่ต้องออกไปทำงานในทุกวันเพราะที่ทำงานยังไม่หยุด แทนที่จะเพิ่มเที่ยวรถเพื่อลดความแออัดและลดเวลาที่คนจะต้องคอยรถอยู่นอกบ้าน กลับคิดเรื่องหยุดวิ่งรถ
หรือเรื่องหยุดงาน ตอนนี้ยังตีกันไม่จบเลยว่าประกันสังคมจะจ่ายคนที่ถูกสั่ง leave without pay (ที่ไม่ได้ทำงานในกิจการที่ถูกสั่งปิดชั่วคราวโดยรัฐ)เพื่อชดเชยการว่างงานในเหตุสุดวิสัยมั้ย หรือจะจ่ายแค่คนที่ถูกที่ทำงานสั่งให้หยุดกักตัว 14 วันเพราะไปสัมผัสเชื้อมา
เนี่ยรัฐทำงานกันแบบนี้ ถ้าล็อกดาวน์แล้วยังออกมาตรการแบบขายผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆแบบนี้ สุดท้ายล็อกดาวน์ไปก็ตายกันหมดค่ะ
ย้ำว่าไม่ต่อต้านการล็อกดาวน์นะ ถ้ามันต้องทำก็ต้องทำ แต่ต้องทำอย่างฉลาดด้วย ล็อกดาวน์แล้วไม่ใช่ว่าจะแล้วกัน มันต้องมีการช่วยเหลือ มีการรองรับ และต้องมีการควานหาตัวผู้ติดเชื้อแบบเชิงรุกที่ไม่ใช่การตรวจยืนยันแค่วันละไม่กี่ร้อยเคสแบบทุกวันนี้
ลองหันไปมองรัฐบาลตอนนี้สิว่ามีความพร้อมในการประกาศมาตรการต่างๆ แค่ไหน เอาแค่ตอนออกมาแถลงว่าจะใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งที่มันควรคุยกันให้จบก่อนว่าจะจำกัดอำนาจรัฐให้ใช้ตามมาตราที่เท่าไหร่บ้าง สิ่งที่รัฐบาลทำคือทิ้งให้มีช่องว่าง 2-3 วันเพื่อรอการประชุมตามรูทีนของรัฐบาล
หรือเมื่อวานอยู่ดีๆ ก็ออกมาพูดว่ายังมีคนใช้ขนส่งมวลชนเดินทางอยู่ ถ้ายังมียอดผู้ติดเชื้อสูงก็จะลดเที่ยวการเดินรถหรือหยุดเดินรถ ทั้งที่ในความเป็นจริงมันยังมีคนที่ต้องออกไปทำงานในทุกวันเพราะที่ทำงานยังไม่หยุด แทนที่จะเพิ่มเที่ยวรถเพื่อลดความแออัดและลดเวลาที่คนจะต้องคอยรถอยู่นอกบ้าน กลับคิดเรื่องหยุดวิ่งรถ
หรือเรื่องหยุดงาน ตอนนี้ยังตีกันไม่จบเลยว่าประกันสังคมจะจ่ายคนที่ถูกสั่ง leave without pay (ที่ไม่ได้ทำงานในกิจการที่ถูกสั่งปิดชั่วคราวโดยรัฐ)เพื่อชดเชยการว่างงานในเหตุสุดวิสัยมั้ย หรือจะจ่ายแค่คนที่ถูกที่ทำงานสั่งให้หยุดกักตัว 14 วันเพราะไปสัมผัสเชื้อมา
เนี่ยรัฐทำงานกันแบบนี้ ถ้าล็อกดาวน์แล้วยังออกมาตรการแบบขายผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆแบบนี้ สุดท้ายล็อกดาวน์ไปก็ตายกันหมดค่ะ
ย้ำว่าไม่ต่อต้านการล็อกดาวน์นะ ถ้ามันต้องทำก็ต้องทำ แต่ต้องทำอย่างฉลาดด้วย ล็อกดาวน์แล้วไม่ใช่ว่าจะแล้วกัน มันต้องมีการช่วยเหลือ มีการรองรับ และต้องมีการควานหาตัวผู้ติดเชื้อแบบเชิงรุกที่ไม่ใช่การตรวจยืนยันแค่วันละไม่กี่ร้อยเคสแบบทุกวันนี้
ความคิดเห็นที่ 23
เย้ว ๆ จะให้ชัตดาวน์ ปิดประเทศกันจังเลยเว้ย
เคยคิดถึงผลกระทบของการชัตดาวน์บ้างมั้ย
จะตายกันหมดก็เพราะชัตดาวน์นี่แหละ ไม่ได้ตายเพราะโรคหรอก ตายเพราะประเทศพัง เศรษฐกิจพัง ชีวิตพัง
ปากท้องไม่มีกิน ต้องปล้น จี้ชิงทรัพย์ ก่ออาญชกรรม คิดว่ามันจะกลียุคขนาดนั้น หรือชอบชีวิตแบบนั้นกัน?
อยากชัตก็ชัตที่บ้านตัวเองไป เริ่มจากตัวเองก่อนเลย
เคยคิดถึงผลกระทบของการชัตดาวน์บ้างมั้ย
จะตายกันหมดก็เพราะชัตดาวน์นี่แหละ ไม่ได้ตายเพราะโรคหรอก ตายเพราะประเทศพัง เศรษฐกิจพัง ชีวิตพัง
ปากท้องไม่มีกิน ต้องปล้น จี้ชิงทรัพย์ ก่ออาญชกรรม คิดว่ามันจะกลียุคขนาดนั้น หรือชอบชีวิตแบบนั้นกัน?
อยากชัตก็ชัตที่บ้านตัวเองไป เริ่มจากตัวเองก่อนเลย
ความคิดเห็นที่ 16
ผมเคยบอกแล้วว่าการจะ Lockdown ไม่ใช่คำตอบ
จะได้ผลจริงๆ คือต้องทำที่ต้นตอของการระบาด คือที่อู่ฮั่น ตั้งแต่ตอนที่เชื้อยังไม่แพร่ออกมาที่อื่น
ถ้าอย่างนั้นน่ะได้ผล ทั้งโลกจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่นี่คือเชื้อมันกระจายไปทั่วโลกแล้ว
คุณจะปิด 15-30-45-60 วันเชื้อมันก็ยังมีอยู่ดี มันไม่ได้หายไปไหน แต่ผลที่เกิดขึ้นถ้าปิดนานๆ คือ
คนจะตายจากความอดอยาก ความวุ่นวาย การจลาจล ปล้นจี้ ระบบต่างๆ ล่มสลาย ไม่ได้ตายเพราะ Covid
คำถามคือปิดแล้วยังไงต่อ? ปิดเสร็จแล้วต่อให้มีคนที่มีเชื้ออยู่สักไม่กี่คน มันก็กลับมาแพร่ระบาดใหม่ได้อยู่ดี
แล้วก็ต้องปิดซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้นหรือ? อย่าไปคิดอะไรง่ายๆ แต่แบบมิติการเมือง
การที่จะจัดการได้ ก็คือต้องมี Treatment หรือ Vaccine หรือ Immunity เท่านั้นแหละ
ที่ปิดๆ ตอนนี้ ก็ไม่ใช่ว่ามันจะทำให้โรคหายไปได้ เพียงแต่ทำให้จำนวนคนป่วยไม่เกินกำลังที่จะทำการรักษา
เพื่อไม่ให้คนเสียชีวิตมีจำนวนมากแบบที่อิตาลี ซึ่งตอนนี้เราก็ได้แต่รอเท่านั้น เพราะมันเป็นอุบัติโรคใหม่ ที่ทางแพทย์เขาก็เพิ่งเคยเจอ
ว่ากันตามตรง ที่ไทยนี่ผลกระทบน้อยกว่าหลายๆ ประเทศมาก ถ้าที่ไทยเป็นอย่างที่อิตาลี อเมริกา จีน หรือยุโรป ป่านนี้ไม่รู้จะวุ่นวายแค่ไหน
จะได้ผลจริงๆ คือต้องทำที่ต้นตอของการระบาด คือที่อู่ฮั่น ตั้งแต่ตอนที่เชื้อยังไม่แพร่ออกมาที่อื่น
ถ้าอย่างนั้นน่ะได้ผล ทั้งโลกจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่นี่คือเชื้อมันกระจายไปทั่วโลกแล้ว
คุณจะปิด 15-30-45-60 วันเชื้อมันก็ยังมีอยู่ดี มันไม่ได้หายไปไหน แต่ผลที่เกิดขึ้นถ้าปิดนานๆ คือ
คนจะตายจากความอดอยาก ความวุ่นวาย การจลาจล ปล้นจี้ ระบบต่างๆ ล่มสลาย ไม่ได้ตายเพราะ Covid
คำถามคือปิดแล้วยังไงต่อ? ปิดเสร็จแล้วต่อให้มีคนที่มีเชื้ออยู่สักไม่กี่คน มันก็กลับมาแพร่ระบาดใหม่ได้อยู่ดี
แล้วก็ต้องปิดซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้นหรือ? อย่าไปคิดอะไรง่ายๆ แต่แบบมิติการเมือง
การที่จะจัดการได้ ก็คือต้องมี Treatment หรือ Vaccine หรือ Immunity เท่านั้นแหละ
ที่ปิดๆ ตอนนี้ ก็ไม่ใช่ว่ามันจะทำให้โรคหายไปได้ เพียงแต่ทำให้จำนวนคนป่วยไม่เกินกำลังที่จะทำการรักษา
เพื่อไม่ให้คนเสียชีวิตมีจำนวนมากแบบที่อิตาลี ซึ่งตอนนี้เราก็ได้แต่รอเท่านั้น เพราะมันเป็นอุบัติโรคใหม่ ที่ทางแพทย์เขาก็เพิ่งเคยเจอ
ว่ากันตามตรง ที่ไทยนี่ผลกระทบน้อยกว่าหลายๆ ประเทศมาก ถ้าที่ไทยเป็นอย่างที่อิตาลี อเมริกา จีน หรือยุโรป ป่านนี้ไม่รู้จะวุ่นวายแค่ไหน
แสดงความคิดเห็น
WHY ไทยแลนด์ถึงไม่หยุด ชัตดาวน์ประเทศสัก 15 วัน เพื่อ ลดอัตราการระบาด เฮ้อ แบบนี้มันจะพังเรื่อยๆมั้ย ???????